คิดว่าโลกและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนจะเปลี่ยนไปอย่างไร หลังเหตุการณ์ COVID-19 ?
ช่วงก่อนมีวัคซีนโลกจะยังมีระยะห่างระหว่างประเทศไปอีกระยะเวลาหนึ่ง กิจกรรมการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบ ส่งผลกับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาเมืองและสังคมโดยตรง หลายประเทศเริ่มมีมาตรการจำกัดการใช้จ่ายและควบคุมกระแสเงินสดให้อยู่ภายในแต่ละประเทศมากขึ้น ซึ่งส่งผลกับรายได้และเงินทุนจากต่างประเทศของไทยโดยตรง เราจึงจำเป็นต้องช่วยกันส่งเสริมกิจกรรมภายในประเทศ เช่น การท่องเที่ยว การใช้จ่าย และการลงทุนภายในประเทศมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้ธุรกิจทุกภาคส่วนสามารถขับเคลื่อนไปได้
ช่วงก่อนมีวัคซีนโลกจะยังมีระยะห่างระหว่างประเทศไปอีกระยะเวลาหนึ่ง กิจกรรมการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบ ส่งผลกับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาเมืองและสังคมโดยตรง หลายประเทศเริ่มมีมาตรการจำกัดการใช้จ่ายและควบคุมกระแสเงินสดให้อยู่ภายในแต่ละประเทศมากขึ้น ซึ่งส่งผลกับรายได้และเงินทุนจากต่างประเทศของไทยโดยตรง เราจึงจำเป็นต้องช่วยกันส่งเสริมกิจกรรมภายในประเทศ เช่น การท่องเที่ยว การใช้จ่าย และการลงทุนภายในประเทศมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้ธุรกิจทุกภาคส่วนสามารถขับเคลื่อนไปได้
ดังนั้นในช่วงนี้ ถ้าเราสามารถเตรียมความพร้อม ปรับปรุงพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ใช้ประโยชน์และส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นประเทศที่มีสุขอนามัยและความปลอดภัย มีความสามารถด้านการจัดการทางสาธารณสุขได้อย่างดีเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาประเทศ มุ่งเน้นความเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีมีความสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลดีกับประเทศเมื่อผ่านพ้นช่วง COVID-19
คิดว่าเทรนด์การออกแบบจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหลังเหตุการณ์ COVID-19
กระแสหลักของแนวทางการออกแบบที่คำนึงถึงความยั่งยืน ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัยยังเป็นกระแสหลักในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปและมากขึ้น
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาก่อนสถานการณ์ COVID-19 แต่ละการพัฒนามีการคำนึงถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานมากขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง มาตรฐานแนวทางการออกแบบเช่น Well Certification ที่เน้นความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยในสิ่งปลูกสร้าง (Built environment) ในประเทศไทยได้รับการปรับใช้มากขึ้น พอมี COVID-19 จึงเป็นตัวเร่งให้มาตรฐานด้านสุขอนามัยต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการแพร่เชื้อของโรคระบาดได้รับการปรับใช้ทันที เช่น มาตรการขั้นตอนเข้าถึงอาคารสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ที่มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ทำความสะอาดร่างกาย การจัดสรรค์พื้นที่การใช้งานที่เพิ่มระยะห่างหรือการแบ่งกั้นให้เป็นพื้นที่ย่อย การเพิ่มขั้นตอนการดูแลทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์หรือแสง UVC
เทรนด์แนวทางการออกแบบส่วนที่น่าจะยังต้องใช้เวลาพัฒนาและศึกษาอีกระยะหนึ่ง คือการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม และกิจกรรมของผู้คนที่มีการปรับเปลี่ยนไปจากผลของ COVID-19 เช่น การทำงานนอกสถานที่ Work from Anywhere การประชุมผ่านระบบการสื่อสาร รูปแบบและพฤติกรรมการท่องเที่ยวและการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตต่าง ๆ ซึ่งหลายส่วนอาจสร้างให้เกิด “โอกาส” ใหม่ ๆ ที่สามารถต่อยอดการพัฒนาในเชิงธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม รวมถึงการพัฒนาเมืองและพัฒนาประเทศได้อย่างดี
“มองว่าวิกฤต COVID-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ในทางที่ดีและสร้างให้เกิดมาตรฐานและโอกาสใหม่ ๆ ได้”
หัวใจสำคัญของการออกแบบเพื่อรองรับบริบทของยุค COVID-19 และการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ หลังจากนี้ ที่จะสามารถลดปัญหาของเมืองและสิ่งแวดล้อม รองรับสถานการณ์วิกฤตหรือเหตุการณ์โรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
คิดว่าเทคโนโลยีของวัสดุเป็นสิ่งสำคัญมากแค่ไหนสำหรับการออกแบบเพื่อรองรับเหตุการณ์โรคระบาดในอนาคต
เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นส่วนที่คนสัมผัสโดยตรงเป็น touch point เทคโนโลยีเรื่องของ Hygienic material , Bacteria Resistance material, Germ Free material, Non VOC material วัสดุทางเลือกที่มีคุณสมบัติพิเศษด้านสุขอนามัย จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่คนต้องสัมผัสใน Built Environment จะเป็นเรื่องสำคัญ วัสดุเหล่านี้จะได้รับเลือกปรับใช้งานมากขึ้น
ขอไอเดียในการ Design Space สำหรับการ WFH: Work from Home
แบ่งออกเป็น 4 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ การจัดสรรพื้นที่ แสง คุณภาพการถ่ายเทอากาศ และ ความเขียว
การปรับใช้พื้นที่ส่วนต่าง ๆ เพื่อกิจกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น การ Work from Home, Work from Anywhere การปรับเปลี่ยนการใช้งานต่าง ๆ ควรคำนึงถึงการจัดวางพื้นที่ใช้งานที่เหมาะสม เช่น การนั่งทำงานที่ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ (Ergonomic) ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับการต้องมีพื้นที่กว้างใหญ่แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่มีระยะใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ และพื้นที่การใช้งานที่เหมาะสม การนั่งที่ไม่ถูกต้องกับสรีระร่างกาย มีผลต่อสุขภาพโดยตรงในระยะยาว
2. แสง
คุณภาพแสงที่ดี มีผลโดยตรงต่อสุขภาพสายตาและยังส่งผลเชิงจิตวิทยาอีกด้วย การได้รับแสงธรรมชาติที่ดีและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกเหนือจากความสว่างที่ต้องเพียงพอกับการใช้สายตาทั้งการอ่านเขียนและการใช้คอมพิวเตอร์แล้ว สีของแสงที่ได้รับในช่วงเวลาต่าง ๆ ระหว่างวันส่งผลโดยตรงด้านสุขภาพเชิงจิตวิทยาของเราอย่างมากโดยเราอาจไม่ได้สังเกต การจัดวางเฟอร์นิเจอร์การจัดพื้นที่นั่งทำงานให้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
3. คุณภาพการถ่ายเทอากาศที่ดี
พื้นที่อยู่อาศัยนั่งทำงานและทำกิจกรรมต่าง ๆ ควรเป็นพื้นที่ที่เปิดรับและถ่ายเทอากาศที่ดี มีการหมุนเวียนอากาศใหม่จากภายนอกเข้าสู่ภายใน เพราะอากาศที่เราหายใจออกมาหากสะสมในพื้นที่เป็นปริมาณมากก็ส่งผลเสียกับร่างกายของเราโดยตรง ทั้งนี้ในการนำอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารบางช่วงเวลาก็อาจต้องมีเครื่องกรองอากาศช่วยเพื่อลดปัญหาเรื่อง PM 2.5 และอื่น ๆ พอมี COVID-19 เครื่องกรองอากาศก็ยิ่งมีสำคัญมากขึ้น
4. ความเขียว
ธรรมชาติและความเขียวส่งผลดีกับคุณภาพการอยู่อาศัยในมิติต่าง ๆ ทั้งการเพิ่มความสดชื่นให้กับอากาศในพื้นที่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม การเป็นพื้นที่พักสายตาลดความเหนื่อยล้าของดวงตาได้ และยังส่งผลดีในเชิงจิตวิทยาสำหรับการอยู่อาศัยและทำกิจกรรมต่าง ๆ การจัดให้มีต้นไม้ขนาดและปริมาณตามความเหมาะสมใกล้หรือในพื้นที่ทำงาน จึงเป็นสิ่งที่ส่งเสริมสุขภาพอนามัยเพิ่มความสดชื่นให้กับพื้นที่ทำงานได้อย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
Facebook: Line: Website:Youtube:Tel: 02 463 1899