ลักษณะการเกิด

เมื่อใช้มือลูบผนังที่ทาสีแล้วเป็นฝุ่นติดมือ ลักษณะเป็นผงละเอียด อาจเป็นสีขาว หรือสีเดียวกับฟิล์มสี มักเกิดกับสีทาภายนอกที่เจอสภาวะอากาศภายนอก หรือผนังที่มีการใช้งานยาวนาน มีความชื้นสะสมสูง มักพบร่วมกับปัญหาสีซีดจาง

สาเหตุ

ปัญหาสีทาบ้าน สีเสื่อมสภาพ สีเป็นฝุ่นผง สามารถพบได้ทั้งภายในและภายนอก แต่มักพบกับสีทาภายนอกเนื่องจากเจอสภาวะอากาศที่รุนแรงมากกว่า โดยมีสาเหตุการเกิดได้หลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

1. เกิดจากการใช้สีทาบ้าน สีทาภายนอกคุณภาพต่ำที่มีปริมาณกาวน้อย เมื่อเวลาผ่านไปสีทาภายนอกจะโดนแสงแดดทำลาย ทำให้กาวสีเสื่อมสภาพ ไม่สามารถหุ้มผงสีและองค์ประกอบอื่นๆของสีทาบ้านได้ กลายเป็นฝุ่นผงคล้ายชอล์ก

2. เกิดจากการไม่ทาสีรองพื้น หรือใช้สีทาบ้านผิดประเภท เช่น นำสีทาภายในมาใช้เป็นสีทาภายนอก ซึ่งสีทาภายในอาคารจะไม่ทนทานต่อสภาวะอากาศ ต่างจากสีทาภายนอกซึ่งทนสภาพอากาศได้มากกว่า

3. เกิดจากการทาสีบนพื้นผิวปูนที่มีความชื้นสูง มีน้ำซึมเข้าสู่ผนังภายหลังจากทาสีบ้าน ซึ่งน้ำจะละลายด่างในปูน ด่างจะเข้าทำปฏิกิริยากับฟิล์มสี ทำให้กาวเสื่อมสภาพ ทำให้สีซีดจางลง และสีเสื่อมสภาพกลายเป็นฝุ่นผงได้

วิธีการแก้ไข

1. ต้องกำจัดฝุ่นออกให้หมดก่อน โดยใช้แปรงพลาสติกขัดทำความสะอาดหรือใช้น้ำแรงดันสูง (Water Jet) ฉีดล้างผนังให้ปราศจากคราบสิ่งสกปรก คราบไข และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ แล้วปล่อยให้ผนังแห้งสนิท

2. พื้นผิวต้องไม่มีปัญหารอยแตกลายงาหรือรอยแตกร้าว ถ้ามีต้องซ่อมแซมรอยแตกด้วยวัสดุที่มีคุณภาพก่อนการเคลือบสี บริเวณที่มีรอยแตกร้าว ขนาดไม่เกิน 2 มม. ให้ทำการซ่อมแซมรอยแตกด้วยสีโป๊ว นิปปอนเพนต์ วีนิเลกซ์ วอล พัตตี้ และสำหรับรอยแตกขนาดกว้างกว่า 2 มม. ให้อุดโป๊วด้วย เทอร์ราคริล

3. บริเวณที่มีเชื้อราตะไคร่น้ำ ให้ขัดทำความสะอาดด้วยน้ำยากำจัดเชื้อรา นิปปอนเพนต์ วีนิเล็กซ์ ไบโอวอช ปล่อยให้ผนังแห้งสนิท ตามมาตรฐานนิปปอนเพนต์ คือ (ปริมาณความชื้นไม่เกิน 6% โดยเครื่อง Kett รุ่น HI-520 และความชื้นไม่เกิน 14% โดยเครื่อง Protimeter Mini ; ค่าความเป็นด่างไม่เกิน 8 (pH 8) 

4. ทาสีรองพื้นปูนเก่าจำนวน 1 เที่ยว (ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายนอก: สีรองพื้นปูนเก่า นิปปอนเพนต์ เอ็กซ์เซล ไพรเมอร์ จำนวน 1 เที่ยว ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายใน: สีรองพื้นสูตรน้ำ นิปปอนเพนต์ อะควา ซีลเลอร์ จำนวน 1 เที่ยว) และทาสีทับหน้าจำนวน 2 เที่ยว (ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายนอก: นิปปอนเพนต์ เวเธอร์บอนด์ จำนวน 2 เที่ยว ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายใน: นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ จำนวน 2 เที่ยว)

วิธีการป้องกัน

ทำงานสีตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยใส่ใจในขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว พื้นผิวต้องสะอาดและแห้งสนิท ปราศจากฝุ่นละออง คราบไขมัน  ผนังไม่มีรอยแตกร้าวและรอยแตกลายงา ป้องกันจุดที่มีการรั่วซึมของน้ำเข้าสู่ผนัง ตรวจระบบท่อระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อป้องกันน้ำและความชื้นซึมเข้าสู่ผนังได้ และควรให้ผนังปูนให้บ่มตัวสมบูรณ์

ควรเลือกใช้สีทาบ้านที่มีคุณภาพสูง ที่มีความทนทานต่อสภาวะอากาศมากกว่า สำหรับพื้นผิวที่มีฝุ่นผงมาก ให้เลือกใช้ระบบรองพื้นใส ที่มีการแทรกซึมที่ดี เสริมสร้างการยึดเกาะ และความแข็งแรงให้กับผนังก่อนทาสีในชั้นถัดไป

สีรองพื้นใสสูตรน้ำมัน: นิปปอนเพนต์ เอ็กซ์เซล ไพรเมอร์ จำนวน 1-2 เที่ยว 

สีรองพื้นใสสูตรน้ำ: นิปปอนเพนต์ อะควา ซีลเลอร์ จำนวน 1-2 เที่ยว

ดูเนื้อหาเพิ่มเติม

ปัญหาสีลอกล่อน การยึดเกาะต่ำ (Low Paint Adhesion)

เกิดขึ้นระหว่างฟิล์มสีที่แห้งแล้วกับพื้นผิวที่ฟิล์มสีนั้นยึดเกาะอยู่

ปัญหาคราบเชื้อรา ตะไคร่น้ำ (Fungus & Algae)

เกิดขึ้นได้กับบริเวณที่มีความชื้นสะสมสูง มักพบคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ

ปัญหารอยลูกกลิ้ง (Roller Mark)

เกิดจากการใช้อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง กลิ้งสีไม่ถูกวิธี หรือผสมน้ำน้อยเกินไป

ปัญหาคราบสกปรกฝังบนผนัง (Dirt Pick-up)

เกิดจากคราบสกปรกสะสมบนฟิล์มสี อาจพบเป็นคราบไหลเป็นทางตามรอยน้ำไหล

ปัญหารอยแตกลายงา (Hairline Cracks)

เกิดจากรอยแตกบนผิวปูนฉาบ หรือผนังสกิมโค้ท ขนาดไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร

ปัญหาการเก็บงานสี (Touch Up Problem)

เกิดเมื่อมีการเก็บงานสีแล้วความเงาของสีเหลื่อมกัน จึงอาจทำให้สีไม่เท่ากัน

ปัญหาสีทาไม่กลบ กลบไม่มิด (Poor Hiding)

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การข้ามขั้นตอนทาสีรองพื้นก่อนลงสีหลัก

ปัญหาสีซีดจาง (Fading Colour)

เกิดกับสีทาภายนอกที่เจอสภาวะอากาศ เช่น แสงแดดที่ทำลายฟิล์มสีให้ซีดจาง หรือความชื้นจากชายล่าง

ปัญหาสีโป่งพอง (Blistering)

เกิดจากการเสียการยึดเกาะผนัง จึงพองตัวออกมาได้และพบมากจากปัญหาความชื้น

ปัญหาคราบเกลือบนฟิล์มสี (Efflorescence)

เกิดจากการมีของแข็งไหลออกมาตามบริเวณรอยแตก รอยต่อ หรือรอยยาแนวของแผ่นผนัง