สอบถามผลิตภัณฑ์
และบริการได้แล้ววันนี้
บันทึกข้อมูลสำเร็จ
Copied!

ยกเลิกการติดตามข่าวสาร

ยืนยัน Loading...
Update
Our Locations
ค้นหาร้านค้า ติดต่อเรา

ปัญหาสีทาไม่กลบ กลบไม่มิด (Poor Hiding)

save_favorites_black saved_favorites
ปัญหาสีทาไม่กลบ กลบไม่มิด (Poor Hiding)

ลักษณะการเกิด

ในระบบการทาสีบ้านและอาคารเพื่อให้มีคุณสมบัติสวยงามและปกป้องพื้นผิว คือ ทาสีรองพื้น 1 เที่ยว ทาสีทับหน้า 2 เที่ยว แต่เมื่อทาสีบนพื้นผิวปูนแล้วพบว่าสีไม่สามารถกลบพื้นผิวได้หมด ยังคงเห็นพื้นเดิมอยู่ ต้องทาซ้ำเพิ่มจากปกติอีก 1-2 เที่ยว ทำให้เกิดปัญหาสีตามมาไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฟิล์มสีอาจลอกล่อนได้ เสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นรวมถึงใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นจากเดิม

สาเหตุ

ปัญหาสีทาไม่กลบ กลบไม่มิดนี้ มีหลายสาเหตุการเกิดได้หลายสาเหตุด้วยกัน ดังต่อไปนี้ 

1. สีทาบ้านที่ใช้เป็นสีคุณภาพต่ำ ที่ให้การกลบพื้นผิวไม่ดี ช่างสีทำงานผิดวิธี โดยอาจใส่ตัวทำละลายผิดอัตราส่วน โดยเมื่อผสมตัวทำละลายมากเกินที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด จะทำให้สีทาบ้านมีคุณสมบัติในการกลบพื้นผิวลดลงไป หรือสีเจือจางนั่นเอง หรือใช้อุปกรณ์ผิดประเภท เช่น ใช้ลูกกลิ้งขนสั้นซึ้งมีการปล่อยสีได้น้อย ทำให้สีบางเกินไปต้องกลิ้งหลาย ๆ รอบ หรือการกลิ้งสีแบบรีดลูกกลิ้งทำให้สีบางไม่กลบพื้นผิว 

2. ทาสีข้ามขั้นตอนโดยที่ไม่ทาสีรองพื้น (เนื้อขาว) ที่ช่วยเรื่องการประหยัดสีทับหน้า (กรณีพื้นผิวใหม่)

3. กรณีสีทาบ้านที่ใช้เป็นเฉดสีสด สีเข้มที่ผสมผงสีอินทรีย์ที่โดยธรรมชาตินั้นมีการกลบพื้นผิวต่ำ เช่น สีแดงสด เหลืองสด และ สีเฉดเข้มผสมจากเบส D ซึ่งมีผงไทเทเนียมน้อย (ผงไทเทเนียมช่วยเรื่องการกลบผิว)

4. พื้นผิวปูนมีการดูดซึมสีมากกว่าปกติ เช่น อิฐบล็อค ปูนสลัด เมื่อทาสีเที่ยวแรกพื้นผิวจะดูดซึมสีมากกว่าปกติ

5. การทาสีบ้านสำหรับงานรีโนเวต (repaint) ที่ต้องทาทับบนสีเก่าเฉดเข้ม พื้นผิวเก่าหรือสีเก่ามีเฉดสีเข้มกว่าสีที่ทาทับ เช่น ทาสีครีมหรือเหลืองทับสีเทาหรือน้ำตาล

วิธีการแก้ไขปัญหาสี

1. เตรียมพื้นผิวโดยพื้นผิวต้องสะอาดและแห้งสนิท ปราศจากฝุ่นละออง คราบไขมัน

2. ผสมตัวทำละลายตามอัตราส่วน ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดไว้ที่ข้างผลิตภัณฑ์ กรณีที่สีทับหน้าเป็นสีเฉดเข้ม ให้เพิ่มการทาสีชั้นกลางโดยทาสีโทนเดียวกันแต่เฉดอ่อนกว่า 1 เที่ยว แล้วทับหน้าด้วยสีทับหน้าเฉดตามต้องการ 2 เที่ยว

3. พื้นผิวก่อนทาสีจะต้องสะอาดและแห้งสนิท หากทำตามมาตรฐานนิปปอนเพนต์ คือ มีปริมาณความชื้นไม่เกิน 6 % โดยเครื่อง Kett รุ่น HI-520 หรือ ไม่เกิน 14% โดยเครื่อง Protimeter Mini และ ค่าความเป็นด่างไม่เกิน 8 (pH 8)

4. พื้นผิวต้องไม่มีรอยแตกลายงาหรือรอยแตกร้าว ถ้ามีต้องซ่อมแซมรอยแตกด้วยวัสดุที่มีคุณภาพก่อนการเคลือบสี บริเวณที่มีรอยแตกร้าว ขนาดไม่เกิน 2 มม. ให้ทำการซ่อมแซมรอยแตกด้วยสีโป๊ว นิปปอนเพนต์ วีนิเลกซ์ วอล พัตตี้ และสำหรับรอยแตกขนาดกว้างกว่า 2 มม. ให้อุดโป๊วด้วย เทอร์ราคริล

5. ทาสีรองพื้นปูนใหม่ จำนวน 1 เที่ยว สีรองพื้น นิปปอนเพนต์ 5100 วอล ซีลเลอร์ จำนวน 1 เที่ยว

6. ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายนอก: นิปปอนเพนต์ เวเธอร์บอนด์ เฉดอ่อน จำนวน 1 เที่ยว (สีชั้นกลาง) และ เฉดเข้ม จำนวน 2 เที่ยว (สีทับหน้าเฉดที่เลือก)

7. ระบบสีที่แนะนำสำหรับสีทาภายใน: นิปปอนเพนต์ แอร์แคร์ เฉดอ่อน จำนวน 1 เที่ยว (สีชั้นกลาง) และ เฉดเข้ม จำนวน 2 เที่ยว (สีทับหน้าเฉดที่เลือก)

8. ทาสีโดยใช้ลูกกลิ้งขนยาว (ลูกกลิ้ง Polyester) สำหรับทาสีน้ำอะคริลิก โดยกลิ้งลักษณะปล่อยลูกกลิ้ง

วิธีป้องกัน

ปัจจัยในการเลือกสีทาบ้าน สีทาภายนอกและสีทาภายใน นอกจากจะเลือกเฉดสีที่ชอบแล้วควรมีการวางแผนการทำงานระบบสีอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมปริมาณสี ระยะเวลา ค่าใช้จ่าย เพื่อการกลบตัวที่ดี และความคงทนในระยะยาว ไม่เกิดปัญหาตามมา ควรเลือกใช้สีคุณภาพสูง และทำงานสีตามมาตรฐานที่กำหนด หากสีที่เลือกใช้เป็นสีเฉดเข้มต้องคำนึงถึงการผสมตัวทำละลายตามอัตราส่วนที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดไว้ที่ข้างผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก และแนะนำให้ทาสีโดยใช้ลูกกลิ้งขนยาว (ลูกกลิ้ง Polyester) สำหรับทาสีน้ำอะคริลิก โดยกลิ้งลักษณะปล่อยลูกกลิ้ง

กรณีที่สีทับหน้าเป็นสีเฉดเข้ม ให้เพิ่มการทาสีชั้นกลางโดยทาสีโทนเดียวกันแต่เฉดอ่อนกว่า 1 เที่ยว แล้วทับหน้าด้วยสีทับหน้าเฉดตามต้องการ 2 เที่ยว

กรณีเป็นพื้นผิวที่ดูดซับสีได้ดี หรือใช้สีเกรดล่างแล้วทาไม่ขึ้น แนะนำให้ผสมน้ำน้อยกว่าสีทั่วไป สีจะมีเนื้อเข้มข้นขึ้น ถูกพื้นผิวดูดซับน้อยลง

Share

ดูเนื้อหาเพิ่มเติม