ลักษณะการเกิด
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการทาสีทาบ้านให้ออกมาสวยงามมีฟิล์มสีที่เรียบเนียน นอกจากมีพื้นผิวที่ดีแล้วก็คืออุปกรณ์ในการทาสี ไม่ว่าจะเป็นแปรง ลูกกลิ้ง สเปรย์ แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน และความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ หากใช้อุปกรณ์ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดรอยของอุปกรณ์นั้น ๆ ได้ เช่น รอยลูกกลิ้งทาสี ที่เกิดรอยต่อลูกกลิ้งบนผนัง มีลักษณะสีไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะเมื่อมองเฉียงสะท้อนกับแสง
สาเหตุ
ปัญหารอยลูกกลิ้ง ของสีทาบ้าน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
1. เกิดจากการกลิ้งสีไม่ถูกวิธี จากการทำงานของช่างสี ไม่ว่าจะเป็นการกลิ้งสีในขณะที่พื้นผิวมีอุณหภูมิสูงทำให้สีทาบ้านแห้งตัวเร็วเกินไป เมื่อทาสีเที่ยวที่สองในขณะที่สีเที่ยวแรกกำลังจะแห้งตัว หรือกลิ้งซ้ำรอยเดิมขณะที่ผิวหน้าของสีกำลังจะแห้งตัว ทำให้เกิดรอยลูกกลิ้งได้ มักเกิดกับการทาสีทาภายนอกในวันที่ลมแรง อากาศร้อนจัด และมักพบกับการทำงานสีในที่สูง เช่น ตึกสูง งานป้าย เป็นต้น
2. เกิดจากการผสมน้ำปริมาณน้อยเกินไป ส่งผลให้เนื้อสีข้นมาก เมื่อทาสีจะเกิดเป็นรอยลูกกลิ้งขึ้นมาได้ และการกลิ้งสีแบบรีดลูกกลิ้งมากเกินไป การกลิ้งสีหนามากเกินไป หรือแม้แต่การใช้ลูกกลิ้งที่ไม่เหมาะสมกับงาน การใช้สีทาบ้าน สีทาภายใน และสีทาภายนอกที่มีคุณภาพต่ำ ประสิทธิภาพการไหลตัวของสีไม่ดี ก็ยังสามารถทำให้เกิดปัญหารอยลูกกลิ้งได้เช่นกัน
3. กรณีเป็นสีน้ำมัน เมื่อมีการเปิดใช้งาน หรือเปิดฝาทิ้งไว้ระหว่างทาจะทำให้ทินเนอร์ในสีระเหยออกไป สีจึงข้นหนืดขึ้น เมื่อทาสีแล้วเนื้อสีจะจับตัวกันเป็นทางยาว ไม่แผ่ตัวสม่ำเสมอ ทำให้สีไม่เรียบเนียน
วิธีการแก้ไข
ควรใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียด ขัดฟิล์มสีที่เกิดปัญหารอยลูกกลิ้งให้เรียบ จากนั้นทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นผง หลังจากนั้นทำการทาสีทับใหม่โดยผสมน้ำลงในสีตามปริมาณที่กำหนด
กรณีสีทาบ้านเป็นสีน้ำอะคริลิก ควรทิ้งให้สีเที่ยวแรกแห้งตัว 2-4 ชม.ก่อนทาสีเที่ยวที่ 2 (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
เลือกใช้ลูกกลิ้งที่มีคุณภาพหรือเลือกชนิดขนของลูกกลิ้ง ให้เหมาะสมกับสีและสภาพของงาน เช่น การใช้ลูกกลิ้งขนยาวจะทำให้เกิดรอยลูกกลิ้งได้ง่ายกว่าการใช้ลูกกลิ้งขนสั้น แต่ลูกกลิ้งขนสั้นจะปล่อยสีได้น้อยกว่าลูกกลิ้งขนยาวทำให้ต้องจุ่มสีหลายๆ รอบ
วิธีการป้องกัน
1. ควรเลือกใช้อุปกรณ์ทาสีที่มีคุณภาพ เลือกชนิดขนของลูกกลิ้ง ให้เหมาะสมกับชนิดของสีทาบ้านและพื้นผิว ตั้งแต่พื้นผิวปูน ผนังปูนฉาบ ผนังสกิมโค้ท ไม้ โลหะ พิจารณาว่าเป็นพื้นผิวหยาบหรือเรียบ โดยปกติพื้นผิวเรียบจะเหมาะกับลูกกลิ้งขนสั้น และพื้นผิวหยาบจะเหมาะกับลูกกลิ้งขนยาว
2. ควรหลีกเลี่ยงการกลิ้งสีในขณะที่พื้นผิวมีอุณหภูมิสูง หรือในวันที่ลมแรง อากาศร้อนจัด ทำงานในที่สูง หากมีความจำเป็นต้องทาสี ควรที่จะผสมน้ำเพิ่มเล็กน้อย และควรหลีกเลี่ยงการกลิ้งซ้ำรอยเดิม ขณะที่ผิวหน้าของสีกำลังจะแห้งตัว
3. ใช้แปรงทาสีเก็บรายละเอียดบริเวณตัดขอบ มุม วงกบก่อนแล้วจึงใช้ลูกกลิ้งบริเวณพื้นที่ใหญ่ กลิ้งสีเป็นรูปตัว W โดยไม่ต้องยกลูกกลิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารอยต่อสี และควรทาสีแต่ละรอบให้สม่ำเสมอกัน ผนังด้านเดียวกันควรทาให้จบในหนึ่งผนัง เพื่อให้สีแห้งพร้อม ๆ กัน จะคำนวณเวลาทาสีรอบต่อไปได้ง่ายขึ้น
4. หากต้องการลดรอยแปรงหรือลูกกลิ้งให้น้อยลง ควรใช้ตัวทำละลาย เช่น น้ำหรือทินเนอร์ผสมเพิ่มลงไปเล็กน้อย ประมาณ 5 – 10% และคนให้เข้ากันทุกครั้งก่อนทา ก็จะช่วยให้สีลื่น เนื้อสีไหลแผ่ตัวได้ดี ฟิล์มสีจึงออกมาเนียนสวยยิ่งขึ้น
5. กรณีผนังมีพื้นที่กว้างและสูง ควรเลือกใช้ระบบการพ่นสีแรงดันสูง (Airless Sprayer) ทดแทนการกลิ้งสี เพื่อให้ได้ฟิล์มสีที่เรียบเนียน สวยงาม และได้ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว